มะเร็งเต้านม คือ เนื้องอกมะเร็งที่เกิดการแบ่งตัวอย่างผิดปกติบริเวณของเซลล์เต้านมในตำแหน่งหนึ่ง เมื่อเวลาผ่านไปเซลล์มะเร็งจะเริ่มกินเนื้อเยื้อเต้านมปกติข้างเคียง และกระจายไปบริเวณต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ช่วยกรองสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย เมื่อมะเร็งกระจายไปบริเวณต่อมน้ำเหลือง เซลล์มะเร็งจะสามารถแพร่กระจายไปได้ในทุกส่วนของร่างกาย ฉะนั้น ระยะของมะเร็งจึงขึ้นกับการกระจายของโรคร่วมด้วย
พบว่ามีเพียง 5-10% ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเท่านั้นที่ได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาจากบิดามารดา ในขณะที่ 85-90% เกิดจากพันธุกรรมที่เปลี่ยนไปจากอายุที่มากขึ้น ซึ่งเราสามารถทำให้สุขภาพดีได้โดยการ รับประทานอาหารที่สมดุล ควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงการดื่มสุราและสูบบุหรี่ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ข้อมูลจาก สมาคมโรคเต้านมแห่งประเทศไทย
ข้อมูลจาก สมาคมโรคเต้านมแห่งประเทศไทย
ปัจจัยเสี่ยงที่สามารถควบคุมได้
ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้
ข้อมูลจาก สมาคมโรคเต้านมแห่งประเทศไทย
ระยะของมะเร็งนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของเนื้องอก เช่น ขนาด หรือตัวรับฮอร์โมน รวมไปถึงการแพร่กระจายไปบริเวณต่อมน้ำเหลืองหรืออวัยวะอื่นๆ การทราบระยะของโรค จะทำให้สามารถวางแผนการรักษา รวมไปถึงการทำนายผลการรักษาได้ โดยระยะของมะเร็งมีตั้งแต่ระดับ 0-4 โดยระยะ 0 คือมะเร็งที่เซลล์มะเร็งยังอยู่เฉพาะภายในท่อน้ำนม ในขณะที่ระยะ 4 คือการที่มะเร็งลามไปยังอวัยวะอื่น
ข้อมูลจาก สมาคมโรคเต้านมแห่งประเทศไทย
ขั้นตอนที่ 1 การมองหาสิ่งผิดปกติบริเวณเต้านมโดยยืนหน้ากระจก
ขั้นตอนที่ 2 การตรวจเต้านม
เนื้อเยื่อของเต้านม (Breast Tissue) ได้แก่ ต่อมน้ำนมและท่อน้ำนมจะอยู่ในบริเวณที่แสดงให้เห็นดังนั้น การตรวจเต้านมจึงต้องตรวจให้ครอบคลุมบริเวณดังกล่าวการสัมผัส ควรทำทั้งในท่านั่งและท่านอน โดยใช้ด้านฝ่ามือของนิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางบริเวณค่อนไปทางปลายนิ้วเนื่องจากเป็นตำแหน่งที่ไวต่อการสัมผัส
การคลำเต้านมจะต้องคลำให้ทั่วทั้งพื้นที่ของเต้านมในระดับความแรง 3 ระดับ คือ
โดยทิศทางในการคลำสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งสามารถเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งก็ได้ 3 สัมผัส
การตรวจด้วยเครื่องแมมโมแกรม
การตรวจเต้านมด้วย MRI (ภาพสะท้อนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า)
เนื่องจากการตรวจ MRI มีราคาแพง ปัจจุบันแนะนำให้ทำ MRI ร่วมกับแมมโมแกรม เฉพาะในผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีความผิดปกติของยีน BRCA ตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไปหรือ เคยมีประวัติได้รับการฉายรังสีปริมาณสูงบริเวณหน้าอกตั้งแต่อายุน้อยสรุปแนวทางการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมสำหรับสตรีไทย
CHULA CANCER รังสีรักษาและมะเร็งวิทยา
การผ่าตัด
รังสีรักษา
การรักษาโดยการใช้รังสี หรือ “รังสีรักษา” เป็นการรักษาโดยใช้รังสีพลังงานสูงในการกำจัดเซลล์มะเร็ง เพื่อให้ก้อนเนื้องอกมีขนาดเล็กลง การรักษาโดยการใช้รังสีนั้นไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด แต่อาจจะมีการระคายเคืองบริเวณผิวหนังที่ได้รับรังสีได้บ้าง ในการใช้รังสีรักษาในมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้นนั้น มักทำหลังจากการผ่าตัดเพื่อเอาก้อนเนื้อออกไปแล้ว การฉายรังสีซ้ำ ก็เพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งที่อาจจะหลงเหลืออยู่หลังจากการผ่าตัด และเพื่อลดอัตราการเกิดซ้ำของโรคมะเร็งเต้านม
ยาเคมีบำบัด
ยาเคมีบำบัดทำหน้าที่ป้องกันการแบ่งตัว และยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง โดยกลไกการออกฤทธิ์ของยาเคมีบำบัดสามารถใช้ได้กับมะเร็งเต้านมลุกลามทุกระยะ แต่การการออกฤทธิ์ของยาก็อาจจะเกิดผลกระทบต่อเซลล์ปกติในร่างกายได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์ที่มีการแบ่งตัวรวดเร็ว อาทิ เส้นผม เล็บ เยื่อบุช่องปาก เยื่อบุทางเดินอาหาร ไขกระดูก (สร้างเซลล์เม็ดเลือด) และเกิดเป็นอาการข้างเคียงในระหว่างที่รักษาขึ้นได้
การรักษาแบบมุ่งเป้า
การรักษาแบบมุ่งเป้า คือ วิธีการรักษามะเร็งชนิดหนึ่ง ที่กำหนดเป้าหมายการรักษาตรงไปที่เซลล์มะเร็ง การรักษาชนิดนี้จะทำลายแต่เพียงเซลล์มะเร็งเท่านั้น แต่จะไม่ทำอันตรายเซลล์ปกติ การรักษาชนิดนี้สามารถทำงานด้วยตัวเองหรือสามารถททำการรักษาควบคู่ไปกับการรักษาชนิดอื่นๆ เช่นอย่างเคมีบำบัด (ทั้งแบบดั้งเดิมหรือแบบมาตรฐาน)
การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด
ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของมนุษย์เป็นการทำงานร่วมกันของ อวัยวะ เนื้อเยื่อและเซลล์ต่างๆ ในร่างกายหลายชนิด มีหน้าที่ในการป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่จะก่อให้เกิดโรคต่างๆ ต่อร่างกาย เมื่อร่างกายเกิดความผิดปกติ เช่น การเกิดโรค หรือเกิดการติดเชื้อ (ทั้งแบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส และปรสิตอื่นๆ) เมื่อสิ่งแปลกปลอมดังกล่าวเข้ามาในร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันจะถูกกระตุ้นให้มีการจัดการสิ่งแปลกปลอมนั้น เพื่อป้องกันหรือลดความรุนแรงโรคที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย
การรักษาโดยภูมิคุ้มกันบำบัด เป็นการใช้ยาที่ส่งเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยาที่ใช้ในกลุ่มนี้ได้มาจากทั้งการสกัดภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นและสังเคราะห์ขึ้นในห้องทดลอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพภูมิคุ้มกัน ออกฤทธิ์โดยการ: • หยุดหรือยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง • ป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปส่วนอื่นของร่างกาย • ช่วยให้ร่างกายกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น
ข้อมูลจาก CHULA CANCER รังสีรักษาและมะเร็งวิทยา
โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพวัฒโนสถ